รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้รายงาน นายมงคล  แดงฟู

สถานศึกษา โรงเรียนนาน้อย

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37

ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2560

    การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่และเพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่

    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1  แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ที่เรียนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนนาน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 37 จำนวน 1 ห้องเรียน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาประกอบด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ จำนวน 7 ชุดกิจกรรม แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 7 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ คะแนนเฉลี่ย การหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t - test)


ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้

    1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 80.57/80.62 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

     2. ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ พบว่า มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

    3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ โดยรวมมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด

แก้ไขล่าสุด (วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม 2018 เวลา 11:36 น.)